การเสริมหน้าอก

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 สถิติแสดงให้เห็นว่าในกลุ่มของผู้รับการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียมชนิดซิลิโคนหรือน้ำเกลือ มีผู้ป่วยเพียงจำนวนน้อยที่ประสบกับภาวะแทรกซ้อน โดยภาวะแทรกซ้อน ที่พบได้คือการเกิดพังผืดหดรัดเต้านม (Capsular contracture) หากแคปซูลหรือเปลือกรอบ ๆ เต้านมเทียมเริ่มตึงและหนาตัว ทำให้รู้สึกว่าเต้านมแข็งและดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถป้องกัน ได้โดยการนวดเต้านมด้วยตนเอง เป็นประจำตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ แต่หากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี โดยบางครั้งจำเป็นต้องถอดแคปซูลออกหรืออาจจำเป็นต้องเปลี่ยน เต้านมเทียมอย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติและพบได้ยากมาก หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์

หากเต้านมติดเชื้อจากการเจาะเลือดหรือแฟบลง จะต้องนำเต้านมเทียมออกทันที โดยจะต้องรอเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะผ่าตัดซ้ำ

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยในระหว่างการผ่าตัด แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ การมีเลือดออกอย่างต่อเนื่องหลังการผ่าตัดอาจส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดซึ่งจำเป็นต้องกำจัดออก ภาวะแทรกซ้อนนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ และขอแนะนำให้ผู้ป่วยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถติดตามอาการหลังการผ่าตัด การติดเชื้อก็เป็นภาวะแทรกซ้อน ที่ผิดปกติและเกิดได้ยากเช่นกัน แต่ก็มีความเป็นไปได้โดยทั่วไปแล้วศัลยแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะก่อนการผ่าตัดเพื่อลดความเป็นไปได้ ที่จะเกิดการติดเชื้อและศัลยแพทย์ที่ได้รับการรับรองและที่มี ชื่อเสียงของเราจะใช้ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงนี้ หลังทำหัตถการนี้แล้ว การตรวจหามะเร็งเต้านมอาจทำได้ยากขึ้น

การเสริมหน้าอกจะช่วยเพิ่มขนาดเต้านม ซึ่งสามารถเพิ่มความเห็นคุณค่า และความมั่นใจในตนเองได้ หัตถการนี้จะทำให้ผู้ป่วยมีรูปร่างที่ดีขึ้นและช่วยปรับสัดส่วนของร่างกายให้สมดุล ผู้หญิง จำนวนมาก รวมถึงผู้ที่อาจได้รับการผ่าตัดมะเร็งเต้านม ผ่านการคลอดบุตร หรือลดน้ำหนัก จะสังเกตเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมาก และรอยแผลเป็นจะค่อย ๆ จาง

ในปีพ.ศ. 2543 ทั้งเต้านมเทียมแบบซิลิโคน และน้ำเกลือได้รับการรับรองจากหน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และเต้านมเทียมที่ผลิตโดย Inamed และ Mentor ซึ่งเป็นสองนักการตลาด ชั้นนำของเต้านมเทียม ได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง