การเสริมคาง

หัตถการผ่าตัด

ศัลยแพทย์จะเลือกขนาด และรูปร่างของคางเทียมที่เหมาะสำหรับการปรับปรุงรูปลักษณ์ จากนั้นศัลยแพทย์จะผ่าเป็นรอยแผลเล็ก ๆ ไปตามด้านในของริมฝีปากล่างหรือใต้คางเพื่อสร้างช่องที่มี ลักษณะ คล้ายกระเป๋า จากนั้นจึงใส่คางเทียมเข้าไปในช่องดังกล่าว

พักรักษาตัวในโรงพยาบาล

0 คืน

ระยะเวลาการผ่าตัด

1 - 2 ชั่วโมง

ยาชา / ยาสลบ

ยาชาเฉพาะที่

การดูแลก่อนการผ่าตัด

ก่อนการผ่าตัด โปรดแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบถึงอาการแพ้ โรคประจำตัว และยาที่ กำลังใช้ (ทั้งทีมีและไม่มีใบสั่งยา) นอกจากนี้ต้องไม่มีความผิดปกติของกระดูก ไม่ได้ใช้ยาแอคคูเทนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้น
ควรหลีกเลี่ยงแอสไพรินและยาที่มีส่วนผสมของแอสไพรินหรือบรูเฟนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพื่อลดโอกาสในการมีเลือดออกหลังการผ่าตัด
ไม่ควรสูบบุหรี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากการสูบบุหรี่อาจส่งผลต่อ ปฏิกิริยาต่อยาชาและทำให้หายช้าลง
ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องแจ้งศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัด การสื่อสาร กับศัลยแพทย์เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยจะต้องพูดคุยกับศัลยแพทย์เกี่ยวกับรูปลักษณ์ ที่ต้องการ เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถทำการตัดสินใจร่วมกับผู้ป่วยเกี่ยวกับผลลัพธ์ จริงที่จะได้รับผู้ป่วยควรล้างหน้าและบริเวณลำคอด้วยน้ำยาทำความสะอาด ต้านเชื้อแบคทีเรีย 2-3 วันก่อนการผ่าตัด
การเสริมคาง

การดูแลหลังการผ่าตัด

โดยปกติแล้ว หลังการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะปิดแผลที่คางด้วยผ้าเทปเพื่อลดอาการบวม และความรู้สึกไม่สบายตัว ไหมที่เย็บบนผิวหนังจะได้รับการตัดออกใน 5 – 7 วัน โดยศัลยแพทย์จะใช้ไหมละลายหากมีการผ่าในช่องปาก

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาด้วยโบท็อกซ์ ได้แก่ เปลือกตาฟกช้ำและคลื่นไส้ แต่อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นชั่วคราวและควรค่อย ๆ หายไป นอกจากนี้อาจมีอาการปวดเฉพาะที่ การติดเชื้อ การอักเสบ อาการกดเจ็บ อาการบวม แดง และมีเลือดออก หรือมีรอยฟกช้ำที่เกิดจากการฉีดา แต่เป็นภาวะที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และมักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติ ของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง (ALS) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงทั่วร่างกาย (myasthenia gravis) หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแลมเบิร์ท-อีทัน (Lambert-Eaton syndrome) อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมากขึ้น

ผลลัพธ์

หัตถการผ่าตัดทุกประเภทต่างก็มีความเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการบวม รอยฟกช้ำ การมีเลือดออก การติดเชื้อ มีของเหลวไหลออกมาจากแผล อาการชา หรือความรู้สึกประสาท สัมผัสที่คาง

ความเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดในการผ่าตัดนี้ คือ อาการชาจากยาชา และอาการบวม โปรดทราบว่าในขณะที่แผลกำลังหาย บางบริเวณจะกลับมารับความรู้สึกได้ก่อนบริเวณอื่น ๆ อาการชาที่ริมฝีปาก มักจะบรรเทาลงใน 2-3 สัปดาห์ นอกจากนี้คางอาจไม่ดูปกติหรือ “ขยับ” อันเนื่องจากอาการบวม การบาดเจ็บ หรือการมีเลือดออก หากเกิดภาวะเหล่านี้ อาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดซ้ำแต่ก็เป็น ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ไม่บ่อยนัก